เป็นคำถามที่ Homy ได้รับจากลูกค้า และเพื่อนๆ บ่อยๆ ว่าก่อนที่เราจะขายเราต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนยังไง วันนี้ Homy เลยนำคำถามนี้ มาตอบให้ทุกคนคลายสงสัยกัน
1.1 สำเนาโฉนดที่ดิน หรือกรรมสิทธิ์ห้องชุด(คอนโด) ใช้ในการดูพื้นที่ของทรัพย์สินที่เราจะขาย และยังเอาไว้ใช้ในการคำนวน ค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อให้เราทราบว่าถ้าเราขายทรัพย์ชิ้นนี้ เราจะต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในวันที่เราไปโอน
1.2 ใบ ทด13 (ใบซื้อขาย) ถ้ากรณีที่เป็นบ้านเราต้องใช้ใบ ทด13. เพื่อดูว่าในที่ดินมีสิ่งปลูกสร้างอะไรบ้าง มีการต่อเติมเพิ่มจากใบ ทด13 หรือไม่ เช่น ใบทด13 ระบุว่าเป็นบ้าน 2 ชั้น แต่เจ้าของบ้านต่อเติมเป็น 3 ชั้น ธนาคารและกรมธนารักษ์ก็จะคำนวนราคาจากใบทด13 ที่ระบุไว้แค่ 2 ชั้นเท่านั้น ดังนั้นหากมีการต่อเติมจะต้องแจ้งยื่นขอก่อสร้าง ถ้าไม่มีการแจ้งมาก่อนแนะนำให้ปรึกษากับทางสำนักงานเขต เพื่อแจ้งการต่อเติมย้อนหลัง เพราะในการขายบ้านจะคำนวนแยกกันระหว่าง ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง
1.3 ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
หลังจากตรวจสอบเอกสารครบแล้ว ลำดับต่อไปคือการสำรวจทรัพย์สิน ( บ้าน,คอนโด ) ของเราว่ามีจุดไหนชำรุดหรือไม่เช่น มีน้ำรั่วซึมหรือไม่ ระบบไฟฟ้า รอยร้าวต่างๆ พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ ประตูห้องต่างๆ เพราะถ้าเราไม่สำรวจก่อนแล้วเกิดมีผู้ซื้อเข้าชม อาจจะทำให้เกิดการต่อรองราคาจากจุดที่ชำรุดได้ หากเจ้าของบ้านหรือคอนโดไม่ได้ อยู่อาศัยแล้วก็ควรจัดเก็บของให้เรียบร้อยก่อน เพราะความเป็นระเบียบก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความประทับใจแรกให้ผู้ซื้อ และอีกอย่างจะทำให้การถ่ายรูปออกมาไม่น่าดู ดังนั้นเราควรจัดการก่อนจะพาผู้ซื้อเข้าชม
ถึงเวลาบอกให้ทุกคนรู้ว่าเรามีของมาขายน๊าาาา ขั้นตอนนี้ไม่อยากแต่เราต้องลงข้อมูลให้เยอะมากพอที่ผู้ซื้อจะเห็นได้ การประกาศให้คนรู้ก็คือการทำการตลาดโดยจะแบ่งเป็น ออนไลน์ และออฟไลน์
ในส่วนของออนไลน์ ให้เราเข้า Google แล้วพิมพ์ว่า ขายบ้าน……. ขายคอนโด…… เมื่อ Google แสดงผลลัพท์ออกมา ให้เราดูแค่ในหน้า 1-2 เต็มที่ไม่เกินหน้าที่ 3 ของผลลัพท์ ว่ามีเว็บอะไรบ้าง ให้เราสมัครสมาชิกเว็บไซต์ (บางเว็บฟรี บางเว็บเสียเงิน) และทำการลงข้อมูลบ้านหรือคอนโด ของเราได้เลย เวลาลงข้อมูล อันดับแรกถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คือรูปถ่าย รูปถ่ายต้องสวย เพราะในออนไลน์ รูปภาพคือด่านแรกที่จะเรียกผู้ซื้อได้ หากผู้ซื้อเจอภาพที่ไม่ดึงดูด ไม่น่าชม อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสในการขายได้เลย ลงข้อมูลทรัพย์ ให้ชัดเจน มีกี่ห้อง มีห้องอะไรบ้าง ที่จอดรถกี่คัน จุดเด่นคืออะไร ทำไมผู้ซื้อถึงต้องซื้อที่นี่
ในส่วนของออฟไลน์ คือการเขียนป้ายติดหน้าทรัพย์ หรือเรียกว่าป้ายกองโจร (บ้าน,คอนโด) หรือบริเวณใกล้เคียง ป้ายกองโจรพวกนี้จะทำหน้าที่ในการบอกกับคนอื่นๆ ในบริเวณนั้น ว่าเรามีของมาขายนะ สนใจติดต่อ…. แต่เวลาติดป้ายก็ให้ระวังพี่ๆเทศกิจกันหน่อย เพราะหากติดไม่เป็น รับรองว่าโดนรื้อออกแน่นอน ติดวันนี้พรุ่งนี้ออาจจะหายได้เลย
การตลาดถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการขาย เพราะต่อให้เรามีของที่จะขายดียังไง แต่คนไม่เห็น ไม่รู้จัก ของๆเรา ก็อาจจะขายไม่ได้เลย หรืออาจจะใช้เวลานานมาก การตลาดควรดูก่อนว่าเรามีงบในการทำการตลาดเท่าไหร่ (ออนไลน์/ออฟไลน์) เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าในการขายครั้งนี้เราได้กำไรหรือขาดทุน เพราะเราไม่รู้ว่าต้นทุนในการการตลาดของเรามูลค่าเท่าไหร่
ข้อนี้พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าผู้ซื้อจะมาตอนไหน เวลาไหน ในการขายผู้ขายต้องพร้อมตลอด เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในทุกๆการขาย อันนี้ผู้ขายอาจจะต้องยอมเสียสละเวลาส่วนตัวของตัวเอง เพื่อพาผู้ซื้อเข้าชม หรือเราอาจจะต้องระบุเวลาที่สะดวกของเราให้ผู้ซื้อทราบ
จะรู้ได้ยังไงว่าราคาที่เราตั้ง แพงไปถูกไป บางคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร ตั้งราคานี้รอไว้ ขายได้ก็ได้ ไม่ได้ราคานี้ก็ไม่ขาย แบบนี้ก็ไม่ผิดเพราะทรัพย์สินเป็นของเรา หากเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินหรือไม่ได้รีบขายก็รอได้เลย แต่กับคนขายบางคน ต้องการรีบขาย ตั้งเป้าขายให้ได้ภายใน 6-12เดือน การตั้งราคาจึงมีผลทันที การตั้งราคาอาจจะดูเหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย เพราะราคายังแบ่งเป็น ราคาคู่แข่ง ราคาตลาด ราคาที่เหมาะสม Homy มีเขียนเรื่อง “ตั้งราคาขายยังไง ไม่ให้มโน” เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียด เลยต้องแยกออกมาอีกหัวข้อหนึ่ง รออ่านกันได้เลย
ผู้ซื้อตัวจริง ตัวปลอม คืออะไร มีด้วยเหรอ มีค่ะ เรามาดูกันก่อนว่าทำไมถึงมีตัวปลอม
ผู้ซื้อตัวปลอมคือ คนที่ไม่ได้คิดจะซื้อจริงๆ แค่อยากมาล้วงข้อมูลของเรา เอ๊ะ!!! แล้วจะล้วงข้อมูลไปทำอะไร ลองนึกตามนี้นะคะ ถ้าเราประกาศขายบ้าน 8 ล้าน ประจวบเหมาะพอดีกับ บ้านในซอยหลังอื่นที่อยู่ใกล้ๆคิดจะขายเหมือนกัน แน่นอนเค้าต้องอยากรู้ว่า บ้านเราขายเท่าไหร่ เพื่อเค้าจะได้นำมาตั้งราคาขายของบ้านเค้าได้ ถ้าเค้าตั้งราคาสูงกว่าก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเค้าตั้งราคาต่ำกว่าเมื่อไหร่ มีผลทันที คือราคาของเราจะส่งผลให้บ้านของเค้าขายได้ทันที อ๊ะ!!! ไม่เป็นไร ให้เค้าขายไปก่อน เดี๋ยวเค้าขายได้ ก็จะถึงหลังของเรา ปรากฎว่ามีหลังอื่นมาขายแทรกเราอีก เราก็ต้องรอต่อไป
ผู้ซื้อตัวจริง คือ คนที่คิดจะซื้อจริงๆ แต่ก็ยังแบ่งได้เป็นอีก 2 ประเภท
1.ผู้ซื้อตัวจริงที่พร้อมซื้อ ผู้ซื้อประเภทนี้คือดีงามมาก พร้อมซื้อด้วยเงินสด หรือถ้าทำเรื่องยื่นกู้ เครดิตดีมาก กู้ผ่านได้ไม่ยาก แต่ผู้ซื้อประเภทนี้จะมีอยู่ประมาณ 20 % ซึ่งเราก็ลุ้นกันว่าเราจะเจอผู้ซื้อประเภทนี้มั้ย
2.ผู้ซื้อตัวจริงที่อยากซื้อ แต่ต้องรอลุ้นเรื่องกู้ ผู้ซื้อประเภทนี้ จะมีอยู่ 80% ต้องยื่นเรื่องกู้กับธนาคาร ซึ่งอาจจะผ่านหรือไม่ผ่านเพราะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรือมีหนี้บัตรเครดิต ซึ่งเมื่อทำการ Pre-Approve อาจจะไม่ผ่านถ้า Statement ไม่ดีพอ หากเราไม่ Pre Approve ก่อนอาจทำให้เสียโอกาสในการขายกับผู้ซื้อคนอื่นได้ Homy มีบริการ Pre Approve ด้วยน้า
ตอนนี้กำลังมีผู้ซื้อประเภทที่ 3 ที่มีแนวโน้มมากขึ้นในอนาคต คือกลุ่ม Freelance ที่ไม่ได้ทำงานประจำกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่มีรายได้มากพอ ขาดแค่การรับรองเงินเดือน ผู้ซื้อประเภทนี้ ได้แก่ คนขายของออนไลน์, Riderของบริษัทต่างๆ ,Freelance ตามสายงาน
การที่เรารู้ว่าผู้ซื้อตัวจริง ตัวปลอม ต่างกันยังไงจะทำให้เราสามารถประเมินได้ว่า ทรัพย์ของเราจะขายได้หรือไม่
ขั้นตอนนี้จะเกิดเมื่อผ่านครบ 6 ข้อ เตรียมรอรับเงินได้เลย แต่ด่านสุดท้ายคือกรมที่ดิน เราต้องเตรียมเอกสารให้ครบ เอกสารทุกอย่างต้องถูกต้องห้ามผิดเด็ดขาด ไม่งั้นจะเสียเวลาไปอีก 1 วันทันที
เป็นยังไงบ้างคะ ขั้นตอนคร่าวๆในการขาย ถ้าไม่อยากเสียเวลาที่มีค่าหมดไปกับเรื่องเหล่านี้ ปล่อยขั้นตอนเหล่านี้ให้ Homy ช่วยดูแลแทนทุกท่าน เสมือนมี Homy เป็นเลขาส่วนตัว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ให้เรื่องขายบ้านเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ บริการฝากขายบ้าน -ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน อสังหาทุกชนิด ลูกค้าสามารถฝากขายอสังหาได้ง่ายๆโดยการส่งข้อมูลรายละเอียด ให้กับทางเรา ได้ตามช่องทางด้านล่างได้เลยคะ